วันอาทิตย์ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

Music Camp' 51

คำนิยามของสัมมนาปีนี้ บอกได้คำเดียวเลยว่า "เหมือนฝัน"
ไม่ใช่สนุกมาก แต่ทุกอย่างรวดเร็วมากจนเหมือนฝันแค่คืนเดียวจบ

สัมมนาปีนี้จัดที่รีสอร์ท(สักอย่าง) ที่จ.นครนายก เป็นรีสอร์ทขนาดกลางอยู่ติดริมแม่น้ำ แต่อันที่จริงแล้ว เป็นแค่ลำธารขนาดย่อม ไหลเอื่อยๆ ซึ่งน้องต้นปอกะน้องเนยลงไป ลำธารก็คงเอ่อแล้ว จึงไม่มีใครสามารถลงไปเล่นได้ แต่สำหรับคนที่ไร้สติในยามค่ำคืน ก็ไม่แน่
บรรยากาศโดยรวมนับว่าโอ แต่สู้ปีก่อนๆบ่ได้เลย

รุ่นพี่เซ็ทแรกที่ตามไป ได้แก่ พี่เก่ง กู ปุ้ย แล้วก็ปุ้ย กู พี่เก่ง จะพิมพ์กี่ที หรืออ่านกี่รอบ ก็มีเท่านี้แหละ หลังจากนั้นไม่นานก็ตามมาด้วย 2 ประธานรุ่นเดอะ(มาก) พี่ตั๋งและพี่เคียว และตามมาสมทบในรอบเย็นเป็นเซ็ทที่สาม ได้แค่ นก พี่โอ๋และพี่โคล และเซ็ทต่อไปที่มาได้แก่...(เสียงจักจั่นร้อง) ที่คุณคิดไว้ ถูกต้องแล้วคร้าบบบ สิริรวมรุ่นพี่ที่มาปีนี้ทั้งหมดแล้ว มีทั้งสิ้น 8 หัวคร้าบบบบบ

ท่ามกลางความมึนงงของรุ่นพี่ จึงขอแวะไปสงบสติอารมณ์กันที่เขื่อนขุนด่าน(สักอย่าง) ไปชมความงามยามพระอาทิตย์ตกดินที่จะลับสันเขื่อน ท้องฟ้ายามเย็นสีแดงสดตัดกับน้ำเงินเข้ม เบื้องล่างเห็นบรรยากาศตัวเมืองนครนายกโดยรอบ สวยงามมาก สามารถติดตามดูรูปภาพจากมัลติพลายของพี่เก่งได้



หลังจากทำใจได้แล้ว ก็แวะกลับมาชมบรรยากาศการสัมมนาของน้องๆ ซึ่งปีนี้ก็คล้ายๆกับปีก่อนๆ แบ่งกลุ่มพรีเซ็นท์ความคิดของกลุ่มตัวเอง แต่ปีนี้ไม่ยักกะมีกฏสมการประหลาดๆเหมือนของใครบางคนปีที่แล้วแฮะ
หลังการพรีเซ้นท์จบ ก็เป็นรายการบอกเล่าเก้าสิบของพวกรุ่นพี่ ซึ่งปีนี้กูก็ได้ถูกอัญเชิญขึ้นไปพูดกะเค้าด้วย ไม่ใช่เพราะอะไร แต่เพราะไม่มีรุ่นพี่ให้ออกไปแล้วต่างหาก และคงเป็นความผิดพลาดอย่างรุนแรงของน้องๆที่ให้กูออกไปพูด เพราะกูดันไปเจอเหตุการณ์ไม่สบอารมณ์เข้า จึงขอยอมเสียสละตัวเองสลับบทบาทกับพี่ปุ้ยออกไปอาละวาดน้องๆ จากการ บอกเล่า จึงกลายเป็น การเหวี่ยงแทน ถ้าทำให้น้องๆหลายคนตกอกตกใจก็ขออภัยด้วย แต่พี่พูดเรื่องจริงนะจ้ะ

หลังจากสัมมนาจบ คิดว่าไม่ต้องพิมพ์ต่อ คนแบนด์ทุกคนก็รู้ดีว่าเกิดอะไรต่อไป ธรรมเนียมปฏิบัติ กิจกรรมที่ซียูแบนด์ขาดไม่ได้ Non-stop until the sun rise!! (over and over again...) และช่วงเวลาแห่งความสนุกสนานหรรษา ลัลล้า เมาแลมันส์ ก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว เจอหน้ากันอีกทีตอนกินข้าวเช้า ราวกับว่าเมื่อคืนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทุกคนหน้าตาสดใส มีชีวิตชีวาดี แต่แก้มแอบเลือดฝาดนิดๆ 555

และแล้วความฝันก็ต้องจบลง เพราะมีพี่บางส่วน(รวมทั้งกูด้วย)ต้องเดินทางกลับก่อนเวลาอันควร เนื่องจากติดภารกิจการทำงาน แต่ส่งตัวแทนรุ่นพี่ทิ้งไว้ พี่เก่งคนเดียวก็พอแล้วแหละ

ใครที่อ่านมาจนถึงตรงนี้ หลายคนคงเป็นห่วงว่าพี่เก่งของเราจะเหงามั้ย แต่สบายใจได้ เพราะว่าพี่เก่งใช้ความสามารถส่วนบุคคล ทำให้ตัวเองมีความสุขได้ทุกประการ แถมยังเมามันส์เกินหน้าเกินตาน้องๆหลายคน ลีลาคงติดตรึงอยู่ในหัวใจน้องๆไปอีกนาน แต่กูเห็นจนชินแล้วว่ะ

จนถึง ณ ตอนนี้(ที่พิมพ์อยู่) ก็ยังรู้สึกทำใจไม่ได้กับการเปลี่ยนบทบาทอย่างรวดเร็ว จาก ชาวแบนด์ มาเป็นมนุษย์เงินเดือน นั่งทำงานหน้าคอมฯ รวดเร็วจนจะรับแทบไม่ได้ แต่ก็...ช่วยไม่ได้นิ

เหมือนฝันไปจริงๆว่ะ

สุดท้ายนี้...
ขอขอบคุณแสงไฟงามๆตลอดทั้งคืน จากพี่เก่ง ฮูซาวด์ของเรา เย้ (และการที่มีคนคิดว่าใช้ไฟสปอตไลท์จริงๆคืออะไร)
ดีเจเปิดเพลงเพราะๆ จาก น้องตุ๊กตา
เครื่องดื่มไม่อั้นตลอดคืน จาก ซียูแบนด์
เสียงดังน่ารำคาญ จาก วงไพ่(นรก) จะเสียงดังกันทำม้ายยยยยย
ปุ้ยและน้ำแข็งที่ช่วยกันลากพะยูน(เนย)เกยตื้นออกไปจากเตียงของเรา
ปากแตก และรอยช้ำทั่วตัว จาก ไอปุ้ยกะไอต๋อม

แล้วเจอกันปีหน้าเว้ย!!

3 ความคิดเห็น:

  1. thanks Jinny, I really miss you guys, I want to go to sammana next year, but still I will go back in November which would mean I'm going to miss another sammana. I am sad, very very sad. No alcohol drinking is like in Thailand, they are so expensive here. I yung mai thun mao loei and it cost like 40 dollars already, (~1200 baht)
    Pub here, you have to pay 10dollars(300 baht) for entrance fee, and each drink cost 6-9 dollars(180-270 baht) they don't have the whole bottle and mixer like us here in Thailand. I miss Thailand, miss Pomme, miss you guys and miss CU Band, please say hi to p' keng p' karng and all the gang for me, I miss them all. I'm not homesick, but band people sick T^T

    ตอบลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ4 มีนาคม 2552 เวลา 11:09

    ขอบคุณมากเลยนะครับ สำหรับบทความ

    ตอบลบ