วันอังคารที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2552

Free Day @ SuanLumPiNi

และแล้ววันว่างๆสบายๆอีกวันก็มาถึง...

ถึงจะเป็นคนละวัน...แต่สถานที่เดิมแฮะ
วันนี้ก็ยังคงมาที่วัดปทุมวนารามเช่นเดิม แค่เปลี่ยนคนที่มาด้วยกันเท่านั้นแหละ
ยังไงวันนี้ก็ต้องมานั่งสมาธิให้ได้ หลังจากที่มาดูลาดเลาไว้ตั้งแต่เมื่อวาน
แต่คนที่มาด้วยนี่สิ โลกแตกพอกัน วันนี้จะรอดมั้ยเนี่ย?

มากับใครไม่มา ดันมากะยัยของขวัญ
ไม่เคยมีคำว่า"สงบ"ถ้าเราสองคนมาเจอกัน
แต่สุดท้าย...ด้วยปณิธานอันแน่วแน่ของข้าพเจ้า สามารถเอาชนะความเวิ่นเว้อทั้งหลายได้
และก็ได้นั่งสมาธิ ปฏิบัติธรรมสักที

"พุธโธ....พุธโธ....พุธ...." อืมม์ สบายใจจริงๆ
ธรรมะก็ดียังงี้นี้เอง...สติมา ปัญญาเกิด จริงๆ

แต่สติเหล่านั้นก็บอกให้ข้าพเจ้ารู้ตัวว่า "หิวข้าว" (อีกแล้ว)
ปัญญาจึงทำให้รู้ว่าควรต้องไปกินข้าวได้แล้ว เดี๋ยวจะเป็นโรคกระเพาะ ว่า...(ไม่เล่นก็ได้ มันเสี่ยวว่ะ)
แล้วเราก็ไปกินข้าวกัน

กินไปคุยไป ถามสารทุกข์สุขดิบไป
อยู่ดีๆน้ำตามันก็พาลไหลเอาดื้อๆ
คงเป็นเพราะ...ดีใจที่ผ่านปีที่ย่ำแย่มาได้แล้ว
และเราก็ต้องสู้ต่อไปกับอีกปีหนึ่งที่กำลังผ่านเข้ามา

"กำลังใจจากตัวเอง...สำคัญที่สุด"

และอีกโปรแกรมหนึ่งที่เคเค(ของขวัญ)เตรียมไว้สำหรับเราในวันนี้ คือ...
ถ่ายทำ"สารคดีสัตว์" ที่ สวนลุมพินี
ตอนแรกก็กะว่าไปถีบเรือ ให้อาหารปลาชิลๆอยู่หรอก
ไหงกลับกลายเป็นสารคดีสัตว์ได้หว่า?
มันมีที่มาที่ไป....

เมื่อมาถึงที่สวนลุม ก็จัดแจงไปซื้อขนมปัง เช่ารถเช่าเรือซะ
เรียบร้อย จินนี่กะเคเคก็ลงเรือกันอย่างไม่รอช้า
"ปั่นปั่น...ถีบถีบ...ถีบถีบ...ปั่นปั่น..." ไปมาประมาณ 4 รอบเศษ
คุยไปคุยมา หัวร่อต่อกระซิกกัน เอ๊ะ...ตัวอะไรหว่า หน้าคุ้นๆ
มองดีๆอีกที "เฮ้ย...ตัวเอี้ยนี่หว่า"

และในขณะที่เห็นเนี่ย ระยะทางห่างจากตัวมันไม่เกินครึ่งเมตรแน่
แถมเรายังเสียเปรียบย่อยยับ เพราะมันอยู่บนบก เราอยู่ในน้ำ มันจะกระโจนลงมาเมื่อไรก็ได้
เท่านั้นแหละ...จินนี่กะเคเคก็ใส่ตีนผีถีบเรือหนีกันอย่างไม่คิดชีวิต
พอหนีห่างออกมาได้ ก็เลยชักภาพมันมาให้ดูกันเป็นขวัญตาในระยะประชิด


ถีบไปถีบมา นึกว่าจะเจอแค่ตัวเดียว ที่ไหนได้ มันเล่นอยู่กันเป็นแฟมิลี่เลยครับ
ขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ ตัวพ่อ ตัวแม่ ตัวพี่ ตัวน้อง มีให้ดูกันละลานตา

รู้สึกว่าตัวนี้จะขนาดเล็กกว่าตัวแรกเนอะ

เหมือนมาถ่ายทำสารคดีสัตว์ยังไงยังงั้น

ถูกเบนความสนใจไปจากการให้อาหารปลาอย่างสิ้นเชิง
และแล้ว...เราก็ตัดสินใจไม่ถีบเรือเข้าไปใกล้ชายฝั่งอย่างเด็ดขาด
เดินเรือสายกลางอย่างเดียว

นี่เป็นบรรยากาศการถีบเรือ

เซ็งเคเคมากๆก็ชักอยากจะมาถีบคนแทน


พระอาทิตย์เริ่มคล้อยต่ำลง คุณหนูขวัญก็ต้องรีบกลับราชวังเช่นเคย
มิเช่นนั้นจะโดนคุณหญิงแม่เพ่นกระบาลได้
การพักผ่อนในวันหยุดนี้กับเคเคก็จบลงเพียงเท่านี้...


ก่อนกลับก็มานั่งสงสัยว่า "ทำไมกูอยู่จุฬาฯใกล้แค่นี้ ไม่เคยมาเลยวะ"

เฮ้อ....เพิ่งมาเห็นค่าตอนที่ตัวเองไปอยู่บ้านนาซะและ

1 ความคิดเห็น: