วันพฤหัสบดีที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

หนังยาง

รู้มั้ยว่า...หนังยางมันก็สามารถเปรียบเทียบกับความสัมพันธ์ของคนได้
ใช่ อีหนังยางมัดถุงข้าวแกงสีแดงๆนี่แหละ
มันสะท้อนให้เห็นอะไรได้หลายอย่างเลยทีเดียว

ดูไร้สาระนะ ที่มานั่งคิดเรื่องอะไรยังงี้
แต่มันก็เป็นสิ่งที่กูคิดจริงๆนี่หว่า
ก็นี่มันที่ระบายความคิดของกู

หนังยาง ถ้าไปดึงมันมากๆมันก็ขาดได้
ก็เหมือนกับความสัมพันธ์ของคนเรา
ยิ่งไปยึดติดมาก ไปตึงมาก ไปกดดันมาก
ไปสร้างกฎเกณฐ์ในการคบกันมาก
"มึงใจป่าว" "เพื่อนกันปะเนี่ย" บลาๆๆ
แทนที่จะยิ่งเหนียวแน่น มันกลับจะยิ่งบั่นทอนความรู้สึกเสียมากกว่า
ไปคาดหวังกับอีกคนคนนึงมาก ก็เป็นการสร้างความกดดันให้กับอีกคนนึงมากเช่นกัน

กูเองก็เคยคาดหวังกับใครหลายคนไว้มากเช่นกัน และก็โดนคาดหวังมามาก
แต่ ณ วันนึง ที่รู้ว่ามันไม่มีทางที่ใครต่อใครจะตอบสนองความต้องการซึ่งกันและกันได้หมด
กูเลิกหวังแล้วว่ะ กูเลิกยึดติดกับสิ่งที่มันไม่รู้ว่าจะยืนยาวไปอีกสักเท่าไร
สิ่งที่รู้ สิ่งที่เห็น สิ่งที่จริง มันอยู่ที่สิ่งที่เราทำเท่านั้นแหละ

แต่ในทางกลับกัน หนังยาง แค่ดึงๆ ยืดๆมันอย่างทะนุถนอม ดึงบ้างปล่อยบ้าง
มันก็คงไม่สึกหรอ ไม่เสื่อมการใช้งานไว ใช้แล้วก็กลับมาใช้ใหม่ได้
ก็เฉกเช่นเดียวกับการคบคน ตึงบ้าง ปล่อยบ้าง
ไม่กดดัน ไม่คาดหวังกันจนเกินไป ปล่อยให้มีที่ว่างซึ่งกันและกัน
มิตรภาพมันก็น่าจะคงอยู่ได้นานกว่าไม่ใช่หรอ
ต่างคนต่างยอมรับในข้อดีข้อเสียซึ่งกันและกัน
ยอมรับในสิ่งที่คนคนนั้นเป็น แม้ว่ามันจะประหลาด มันจะนิสัยเสีย
แต่ถ้าตอนที่มาอยู่กัน ยังคงเคารพในสิทธิส่วนตัวของแต่ละคน
ข้อเสียเหล่านั้นมันก็คงไม่ใช่อุปสรรคของการคบหากันไม่ใช่หรอ
อย่างที่เค้าพูด "อยากทำไรก็ทำไป อย่าทำให้คนอื่นเดือดร้อนเป็นพอ"
นี่เป็นสิ่งที่กูเชื่อ...

กูเหนื่อยกับสิ่งที่ตัวเองเป็นก็มากพอแล้ว
และกูก็ยังเหนื่อยกับสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัวกูอีก
กูไม่ได้โทษใคร กูโทษตัวเองที่เกิดมาเป็นแบบนี้
เกิดมาเป็น "จินนี่ที่แสนจะเวิ่นเว้อ"
เออ กูเป็นแบบนี้แหละ
และกูก็ขอบคุณสำหรับคนที่ยอมรับกูในแบบที่กูเป็น
โดยเฉพาะ เพื่อนกลุ่มกูที่ยอมรับและอยู่เป็นเพื่อนกันมาเสมอ
ไม่ว่ากูจะเวิ่นเว้อสักเท่าไร ก็ยังคงให้กำลังใจ ไม่เอือมระอากับสิ่งที่กูเป็น
ทั้งๆที่กูเองก็เอือมตัวเองจะแย่อยู่แล้ว

เพราะพวกเราเป็นแบบนี้ เราถึงคบกันมาได้นาน
กูรู้นะ ว่าพวกเราไม่ได้นิสัยดี เลิศเลอเพอร์เฟกต์อะไรกันหรอก
แต่ก็เพราะพวกเราต่างรู้และยอมรับ ทั้งข้อดีและข้อเสียซึ่งกันและกัน
มันถึงยังอยู่กันมาได้โดยไม่มีใครต้องฝืนตัวเอง
คบกันในแบบที่ตัวเองเป็น

ตอนนี้กูรู้สึกว่า กูเหนื่อย กูอยากหยุดพัก กูสับสน
ไม่อยากสนใจอะไรรอบๆตัวเลยทั้งสิ้น เหนื่อยที่จะวิ่งตาม
กูทำตามใจคนอื่นมาเยอะแล้ว ขอกูทำตามใจตัวเองสักครั้งได้มั้ย
กูเห็นแก่ตัวหรือป่าว ถ้ากูอยากจะคิดยังงี้

ตอนนี้กูทำอะไรไม่ได้ คงได้แต่ปล่อยไป...
สักวันมันก็คงมีหนทางของมันเอง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น