วันศุกร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

ว่าด้วยความรัก...

เคยอ่านหนังสือเล่มหนึ่งชื่อว่า “ธนาคารความสุข” แล้วรู้สึกติดใจกับประโยคหนึ่งมาก
และรู้สึกว่า มันช่างตรงกับสิ่งที่กูคิด ณ ตอนนี้เสียจริง

“สิ่งที่ทุกข์ยิ่งไปกว่าการไม่มี คือ การเคยมี”

ไม่ว่าจะอ่านประโยคนี้สักกี่ครั้ง ก็รู้สึกว่ามันเป็นความจริงซะเหลือเกิน
โดยเฉพาะกับเรื่อง “เงิน” และ “ความรัก”

ลองเปรียบเทียบดูระหว่าง
คนหนึ่งเกิดมาฐานะธรรมดาจนถึงยากจน พอมีพอใช้ อยากได้อะไรต้องไขว่คว้าหามาด้วยตัวเอง
กับอีกคนหนึ่งที่เกิดมาบนกองเงินกองทอง ไม่เคยต้องตกระกำลำบาก ใช้ชีวิตอยู่ด้วยความสุขสบาย

และถ้าวันหนึ่ง เกิดมีเหตุให้ชีวิตของเค้าทั้งสองต้องเปลี่ยนไป

เจอมรสุมชีวิตพัดกระหน่ำจนใช้ชีวิตอยู่อย่างยากลำบาก
คุณคิดว่าคนแรกหรือคนที่สอง จะรับมือกับสถานการณ์เหล่านี้ได้ดีกว่ากัน
เชื่อว่าใครๆก็คงตอบคนแรก เพราะคนที่เคยผ่านความยากลำบากมาก่อน
ก็มักจะรู้ว่าควรต้องทำอะไรต่อไปภายใต้สถานการณ์เช่นนี้
เพราะอย่างไรซะ เค้าก็ไม่เคยได้สบายซะจนไม่รู้ว่าการต้องต่อสู้เป็นอย่างไร
เพียงแต่ก็ต้องสู้เพิ่มขึ้นอีกนิด

แต่สำหรับคนที่สอง ที่ชีวิตไม่เคยผ่านความยากลำบากมา
หากเจอเหตุการณ์เช่นนี้เข้า ก็คงยิ่งทุกข์ทรมานหนักซะยิ่งกว่าคนแรก
เพราะการที่ “เคยมี”นั่นแหละ จึงทำให้คนเกิดการยึดมั่นถือมั่น
ไปหลงคิดว่าสิ่งที่เราเคยมีมันจะจีรัง ให้ความสุขความสบายกับตัวเราเสมอไป
ทั้งๆที่ความจริงแล้ว มันไม่ใช่เลย
จากคนที่เคยมี และกลับกลายเป็นคนที่ไม่มี ก็ย่อมที่จะทุกข์หนัก
ตามอย่างที่ประโยคในหนังสือนั้นบอก หากได้เคยรู้จักความลำบากสักนิด
หรือรู้ว่าการไม่มีเป็นเช่นไร ก็อาจจะไม่ต้องทนทุกข์มากไปกว่าเดิม

แต่ไม่ว่าอย่างไร ไม่ว่าจะเคยมีหรือไม่
สิ่งสำคัญที่จะทำให้คนเราทุกคนฝ่าฟันอุปสรรคทุกอย่างไปได้ คือ “สติ”
ต่อให้เป็นคนแรกที่เคยพบกับความลำบากมาบ้าง
แต่ถ้าหากขาดสติ ก็อาจจะอยู่ในสภาพที่แย่ยิ่งกว่าคนหลังก็เป็นได้
เพราะฉะนั้น การมีสติอยู่กับตัว นับว่าเป็นสมบัติล้ำค่าซะยิ่งกว่าทรัพย์สมบัติอื่นเป็นไหนๆ
ไม่มีวันจางหาย ไม่มีวันเสื่อม มีแต่สร้างปัญญามิใช่ปัญหาให้แก่ผู้เป็นเจ้าของ

นอกจากเรื่องเงินแล้ว ประโยคนี้ก็เห็นถ้าจะจริงสำหรับเรื่องความรักเช่นกัน

ความรัก เปรียบแล้วก็เหมือน ดาบสองคม อย่างที่ใครก็พูดกันว่า “ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์”
ไม่ใช่ว่ามีความรักแล้วจะมีแต่เรื่องดีเสมอไป หลายคนหลายครั้งที่ถูกทำร้ายด้วยความรัก
เพราะ “รักทำให้คนตาบอด”นั่นเอง จนไม่รู้ว่าสิ่งนั้นมันถูกหรือไม่

ตอนที่คนเรามีความรัก โลกทั้งใบมันช่างดูสวยงาน ดูอมชมพูไปซะทุกอย่าง
เป็นยาทางใจชั้นเลิศ ที่ทำให้ผู้คนสู้ชีวิตในยามที่เหนื่อยล้าได้อย่างน่าอัศจรรย์
ไม่ว่าจะเกิดปัญหาอะไร เพียงมีฉันและเธอ ก็เหมือนมีกำลังใจที่จะฝ่าฟันมรสุมต่างๆไปได้

แต่รู้หรือไม่ว่า คุณเริ่มหลงกลในความรักแล้ว
เป็นเรื่องที่น่าแปลก ที่พอคนเราขาดรัก หรือเจ็บช้ำเพราะความรัก
คนเราจะดูโง่ลง จนไม่สามารถรู้ได้เลยว่าเมื่อก่อนเรามีชีวิตอยู่มาได้ยังไง
ทุกสิ่งที่เคยงดงาม กลับกลายเป็นความมืดมนที่ทำร้ายกรีดแทงหัวใจเรา
นี่แหละ คืออีกคมหนึ่งของดาบ ที่เรียกว่า ความรัก ที่เราไม่ยอมรับรู้จนถึงวันที่เราโดนมันทำร้าย

ความรักเป็นสายฝนที่เย็นชุ่มฉ่ำ แต่หากเมื่อใดที่อยู่กลางสายฝนนานไป เราก็ป่วยได้เช่นกัน
และความรักก็เป็นดั่งไฟที่ให้ความอบอุ่น แต่ถ้าหากอยู่ใกล้ไป ไฟก็แผดเผาให้เราทรมานได้ไม่ต่างกัน
พอคนเริ่มมีความรัก ก็มักจะเริ่มยึดติดในความสุขนั้นอย่างไม่รู้ตัว
และพอเริ่มยึดติดนั่นแหละ ประตูแห่งความทุกข์ก็ค่อยๆแง้มออกต้อนรับคุณแล้ว
เพราะไม่มีสิ่งใดจีรังในโลกนี้ แม้แต่ความรัก หรือความสุขที่เกิดจากความรักก็เหอะ
สักวันมันก็จะสูญสลายไปราวกับอากาศ ไม่เว้นแม้แต่ตัวเราเองนี่แหละ

คนเคยมีรัก พอไม่มี มันก็เริ่มเป็นทุกข์ ทุรนทุรายกับสิ่งที่เสียไป
เพราะใจมันยึดติดกับความสุขตรงนั้น
ยิ่งพยายามไขว่คว้าความสุขนั้นให้อยู่กับตัวมากเท่าไร ก็ยิ่งเป็นการหาความทุกข์ใส่ตัวมากขึ้นเท่านั้น
จะหยุดทุกข์ได้ก็ต่อเมื่อ เข้าใจถึงสัจธรรมความเป็นจริง ที่ว่าทุกสิ่ง “เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป”
เราจะได้เลิกยึดติดมัน
แต่จะมีคนสักกี่คนที่คิดได้เช่นนั้น

ไม่ใช่ว่ามนุษย์เราจะไม่รู้ถึงสัจธรรมข้อนั้น
แต่ถึงรู้ จะมีสักกี่คนล่ะ ที่สามารถฝืนความต้องการของหัวใจได้
ดังนั้น หากริจะมีรัก ก็ต้องเตรียมใจไว้แต่เนิ่นๆ

ความรักทำให้คน “เข้มแข็ง”ได้ แต่ก็ทำให้ “อ่อนแอ”ได้เช่นกัน
แต่อยู่ที่ว่าคนๆนั้นจะสามารถรับมือกับความอ่อนแอที่เกิดขึ้นได้มากน้อยแค่ไหนกัน
คนฉลาด จะสามารถเอาชนะความอ่อนแอนั้น และเดินหน้าต่อไปได้ ถึงแม้จะใช้เวลาแค่ไหนก็ตาม
ส่วนคนอ่อนแอ จะจมอยู่กับความทุกข์อยู่อย่างนั้น
ไม่กล้าที่จะก้าวเดินต่อ เอาชนะความอ่อนแอในใจตัวเองไม่ได้
สุดท้ายแล้ว ก็จะวนๆอยู่อย่างนั้น ไปไหนไม่ได้สักที

หากคนเรา รู้จักใช้ประโยชน์จากความรัก และฉลาดพอที่จะรู้เท่าทันมัน
ความรัก จะให้ประโยชน์กับเรานานัปการ
แต่ถ้าหากเราหลงกล ไปยึดติดกับความรักแม้เพียงนิด
ความรักก็ให้โทษกับเราแสนสาหัสเช่นกัน

แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคนอ่อนแอจะไม่สามารถมีความรักได้
ทุกคนสามารถมีรักได้ แต่ขึ้นอยู่กับว่า ใจของเราแต่ละคนนั้น พร้อมหรือไม่
ถ้าใจของเราพร้อมและเข้มแข็งพอ ไม่ว่าความรักนั้นจะทำร้ายเราสักแค่ไหน
ใจเราก็จะไม่สั่นคลอน ถึงจะโศกเศร้าก็คงไม่นาน
แต่ถ้าใจเราอ่อนแอ อ่อนแอตั้งแต่ตัวเราเอง
แค่มีใครเอาปลายมีดมาสะกิด ก็คงจะกลายเป็นแผลเหวอะหวะได้
หัวใจเราจะโดนทำร้าย เพียงเพราะความไม่เข้มแข็งของใจ

ดังนั้น หากคิดจะรักใคร ให้มองที่ใจเราก่อน ว่าพร้อมหรือไม่
ถ้าพร้อม ก็ลองดูกับความรัก และแม้พลาดพลั้ง ก็ยังลุกขึ้นสู้ใหม่ได้
แต่ถ้าไม่พร้อม ก็หยุดพักอยู่กับตัวเองก่อน อย่าสักแต่หาความรักนอกตัว โดยที่ไม่ดูสภาพใจตัวเอง
และเมื่อถึงเวลาที่ใจคุณพร้อม ไม่ว่าความรักนั้นจะสวยงามหรือไม่
ใจคุณก็จะพร้อมยอมรับได้ทุกสภาพ และไม่ปวดใจ ไม่ทรมาน

วันนี้ ใจคุณพร้อมกับความรักมากแค่ไหน ถามตัวเองดูหรือยัง?

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น